ท่องเที่ยวแบบเจาะลึกกรุงโตเกียว และภูมิภาคคันโต กุมมะ อิบะระกิ และชิบะ : วันที่ 3 อิบะระกิ (Ibaraki)

สวนไคราคุเอ็น (Kairakuen Park)

สวนไคราคุเอ็น (Kairakuen Park) ตั้งอยู่ในเมืองมิโตะ (Mito) สร้างขึ้นในปี 1842 โดยเจ้าครองเมืองมิโตะลำดับที่ 9 นามว่า “นาริอากิ โตกุกาวะ” เป็น 1 ใน 3 สวนที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนมีนาคม สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมความงาม สีสัน และสูดกลิ่มหอมของดอกไม้ ที่มีประมาณ 100 สายพันธุ์ มากกว่า 3,000 ต้น นอกจากต้นบ๊วยแล้ว ยังมีป่าไผ่, ไม้ซีดาร์, ดอกฟูจิโนะฮะนะ และอาคารสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างโคบุนเตให้เข้าชมอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอควาเวิลด์ (Aqua World)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอควาเวิลด์ (Aqua World) ชื่อเดิมว่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอิบะริกิโออาไร (Ibaraki Oarai Aquarium) มีพื้นที่ 19,800 ตร.ม. ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำรูปแบบใหม่ ที่นำวิธีการจัดแสดงนิทรรศการมาจากพิพิธภัณฑ์และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ต่าง ๆ โดยมีการแบ่งออกเป็น 9 โซน  โซนแรกคุณจะพบกับโซนทะเลที่เป็นการสร้างทะเลของอิบะระกิโดยมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชีววิทยา, พิพิธภัณฑ์สาหร่ายทะเลและทะเลในพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่จัดแสดงชีวิตสัตว์โลกใต้น้ำกว่า 80 สายพันธุ์ รวม 20,000 ชีวิต แนอกจากนี้ยังมีโซนสำหรับการเรียนรู้ไปอย่างสนุกสนานที่ Sea Life Museum และ Ocean Information Plaza

สวนสาธารณะริมชายทะเลฮิตาชิ (Hitachi Seaside Park) เป็นสวนดอกไม้ริมทะเลขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 1.9 ล้านตารางเมตร โซนชมทุ่งดอกไม้มีทั้งหมด 8 จุดหลักๆ มีดอกไม้ประจำฤดูกาลหลายสายพันธุ์ ซึ่งดอกไม้นั้นจะบานผลัดเปลี่ยนสายพันธุ์ให้ชมตลอดทั้งปี ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกไม้สีฟ้าชื่อ เนโมฟิลลา (Nemophila) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Baby Blue Eyes กว่า 4,500,000 ดอก นอกจากนี้ยังมีดอกกุหลาบและดอกป๊อปปี้บานในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นอีกฤดูกาลที่สวนแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ เทศกาลทุ่งดอกโคเคีย (Kochia) กว่า 32,000 ต้น จะเริ่มต้นเปลี่ยนสีจากสีเขียวสดเป็นสีส้มและแดงส้ม แดงเลือดหมู และน้ำตาลไปตามลำดับ

พักในเมืองโตเกียว (Tokyo)