แนะนำแหล่งมรดกโลกแห่งนางาซากิ (Nagasaki) และอะมะคุซะ (Amakusa), นางาซากิ (Nagasaki) และ คุมะโมโตะ (Kumamoto)

โบสถ์คาทอลิกโออุระ (Oura Cathedral) คือหนึ่งในโบสถ์คาทอลิกชั้นนำในตัวเมืองนางาซากิสร้างขึ้นในปีค.ศ.1865 และนับเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาสถาปัตยกรรมในคริสต์ศาสนาที่ยังคงเหลืออยู่ในญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน

แต่เดิมนั้นโบสถ์คาทอลิกโออุระ เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นสำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น แต่ต่อมาได้มีชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นคริสเตียนลับมาเยือนเป็นจำนวนมาก จึงกลายเป็นสถานที่สำหรับแสดงศรัทธาในศาสนาของเหล่าคริสเตียนลับไปในที่สุด

รูปแบบสถาปัตยกรรมของตัวโบสถ์เป็นแบบกอธิค (อาคารสูงชะลูดด้านบนเป็นทรงแหลม) ประดับด้วยกระจกสีหรือสเตนกลาสหลากสีสันทั่วบริเวณ ด้านหน้าแท่นบูชาประดับด้วยงานสเตนกลาสรูป “พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขน (Crucifixion of Jesus)” ขนาดมหึมาความสูงราว 3 เมตรและกว้างราว 1.5 เมตร จนทั่วบริเวณเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์

โบสถ์คุโระชิมะ (Kuroshima Catholic Church) ตั้งอยู่ที่ เกาะคุโระชิมะ (Kuroshima Island) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองซาเซโบะ (Sasebo City) ออกไปทางตะวันตกประมาณ 10 กิโลเมตร มีชุมชนคริสเตียนลับที่อพยพหนีการรุกรานจากแผ่นดินใหญ่มาเมื่อ 150 ปีก่อนอาศัยอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ในช่วงแรกยังคงประกอบพิธีกรรมทางศาสนากันในบ้าน แต่ต่อมาได้มีการสร้างโบสถ์ไม้ขึ้นในปีค.ศ.1878 และในปีค.ศ.1902 โบสถ์สไตล์โรมันที่ก่อด้วยอิฐแดงก็แล้วเสร็จสมบูรณ์สง่าผ่าเผย ภายในโบสถ์ตกแต่งด้วยหินแกรนิตที่มีเฉพาะบนเกาะจำนวนมาก และที่ใต้แท่นบูชาก็ปูด้วยกระเบื้องเคลือบอาริตะยากิ (Aritayaki) จำนวนกว่า 1,800 ชิ้นดูวิจิตรงดงาม

ในปีค.ศ.1550 เรือจากโปรตุเกสได้เดินทางมาถึงดินแดนแห่งนี้และเริ่มทำการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ หลังจากนั้นญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคกีดกันทางศาสนา หมู่บ้านคะซุงะ (Kasuga Village) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีโบสถ์อยู่ที่นี่มีเหล่าชาวคริสเตียนลับอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และใช้เส้นทางขึ้นสู่ยอดเขายะซุมันดาเกะ (Mt. Yasuman-dake) เป็นเส้นทางศักดิ์สิทธิ์สำหรับสักการะบูชาพระเจ้า นอกจากนี้ก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเข้ามาแพร่หลาย ชาวคริสเตียนลับเหล่านี้ก็ยังเคารพบูชาภูเขาตามความเชื่อที่มีมายาวนาน รวมถึงเกาะที่เหล่าชาวคริสเตียนได้อุทิศตนกัน ในฐานะดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด

ปัจจุบันหากใครได้ไปเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ก็จะได้เห็นความงามของไร่นาขั้นบันไดที่ทอดตัวยาวจากภูเขาไปจนจรดทะเล หากได้ทอดสายตาชมความงามของไร่นาขั้นบันไดที่หล่อเลี้ยงด้วยสายน้ำชุ่มฉ่ำอุดมสมบูรณ์จากภูเขายะซุมันดาเกะ (Mt. Yasuman-dake) พร้อมกับปล่อยใจให้จินตนาการถึงชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าคริสต์ศาสนิกชนในสมัยก่อนคงน่าเพลิดเพลินไม่น้อยทีเดียว

ซะคิทสึ (Sakitsu) คือชื่อของหมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเกาะชิโมะชิมะ (Shimoshima Island) ในหมู่เกาะอะมะคุซะ (Amakusa Islands) จังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto) และเหล่าคริสเตียนลับที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็มีรูปแบบของศรัทธาที่แตกต่างจากที่อื่น โดยการบูชาเครื่องมือหาปลาและเปลือกหอยต่างๆ ตามรูปแบบของหมู่บ้านชาวประมง

โบสถ์ซะคิทสึ (Sakitsu Church) เป็นโบสถ์ไม้ หอคอยยอดแหลมด้านหน้าสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ด้านในปูด้วยเสื่อตาตามิ ตัวโบสถ์ในปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ในปีค.ศ. 1934 และเนื่องจากมีทัศนียภาพที่กลมกลืนกับท้องทะเลด้านหลัง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “โบสถ์แห่งทะเล (Church of the Sea)” ด้วย