© JNTO
© Shizuoka Tourism Association
สัญลักษณ์หนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นก็คือ ดอกบ๊วย (Plum Blossoms) ซึ่งจะผลิดอกก่อนฤดูซากุระบานเพียงไม่นาน เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคมในทุกๆ ปี ตามสถานที่ชมดอกไม้ชื่อดังทั่วญี่ปุ่นจะครึกครื้นแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่ตั้งใจเดินทางมาเพื่อชื่นชมความงามของดอกบ๊วยที่บานรับแดดแรกแห่งฤดูใบไม้ผลิ และในครั้งนี้เราจะขอแนะนำสถานที่ๆ จะได้เต็มอิ่มกับความงามของดอกบ๊วยอย่างเช่นสวนญี่ปุ่นและศาลเจ้าต่างๆ ให้ได้รู้จักกัน
สวนไคระคุเอน (Kairaku-en Garden), อิบะระกิ (Ibaraki)
© JNTO
© Ibaraki Kankou Bussan Kyokai / © JNTO
สวนไคระคุเอน (Kairaku-en Garden) คือ 1ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในจุดชมดอกบ๊วยชื่อดังของญี่ปุ่นอีกด้วย ภายในสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่แห่งนี้ จะเต็มไปด้วยต้นบ๊วยราว 100 สายพันธุ์รวม 3,000 ต้นที่ทยอยกันผลิดอกบานตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมไล่ไปจนถึงเดือนมีนาคม และยิ่งไปกว่านั้นแนะนำให้ไปเที่ยวชมในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิ้นเดือนมีนาคม เพราะเป็นช่วงที่มีการจัดงานเทศกาลชมดอกบ๊วย (Plum Blossom Festival) ซึ่งจะมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ทั้งกิจกรรมดื่มชา เทศกาลเหล้าบ๊วย การแสดงดนตรีโดยเครื่องดนตรีญี่ปุ่นโบราณ และการประดับไฟไลท์อัพในเวลากลางคืน เป็นต้น การได้เดินเล่นไปในสวนและได้เอร็ดอร่อยกับขนมที่ทำจากบ๊วยซึ่งเป็นของดังเมืองมิโตะ (Mito) ใต้ต้นบ๊วยที่ผลิบานเต็มที่ช่างเป็นบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์เป็นอย่างยิ่ง หรือหากต้องการชื่นชมความงามของดอกบ๊วยเงียบๆ ภายในสวนแล้ว อาคารที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามเต็มไปด้วยรสนิยมอย่าง “โคบุงเท (Kobuntei)” ก็เหมาะมาก นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆ กันก็ยังมี โคโดคัง (Kodokan) อาคารเก่าแก่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์จากสมัยเอโดะ (Edo) ที่งดงามด้วยต้นบ๊วยกว่า 800 ต้นอีกด้วย
ที่อยู่ |
Kairaku-en Garden1-3-3, Tokiwa-cho, Mito-shi, Ibaraki |
---|---|
แผนที่ | |
การเดินทาง | จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Limited Express “Hitachi” “Tokiwa” ไปลงที่สถานี Mito ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที และจากป้ายรถบัสหมายเลข 4 บริเวณประตูทางออกทิศเหนือของสถานี Mito โดยสารรถ Ibaraki Kotsu Bus สาย Kairakuen ไปลงที่ป้าย Kairakuen–Tokiwa Jinja Mae ใช้เวลา 10 นาที แล้วเดินอีก 5 นาที *ในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการระหว่างเทศกาลชมดอกบ๊วย จะเปิดให้บริการสถานีรถไฟ Kairakuen Temporary Station บนเส้นทางรถไฟสาย JR Joban Line ขาล่อง |
เวลาทำการ | 20 กุมภาพันธ์ – 30 กันยายน 06:00 – 19:00 น. 1 ตุลาคม – 19 กุมภาพันธ์ 07:00 – 18:00 น. |
ระยะเวลาจัดงาน | The 122ndMito Plum Blossom Festival: 17 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2018 (Kairaku-en Garden เปิดให้บริการตลอดปี) |
วันหยุด | ไม่มี |
ค่าใช้จ่าย | Kairaku-en Garden: เข้าฟรี Kobuntei: ผู้ใหญ่ 200 เยน, เด็กประถมและมัธยมต้น 100 เยน, อายุ 70 ปีขึ้นไปเข้าฟรี Kodokan: ผู้ใหญ่ 200 เยน, เด็กประถมและมัธยมต้น 100 เยน, อายุ 70 ปีขึ้นไปเข้าฟรี |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) | http://www.mitokoumon.com/festival/ume.html http://www.koen.pref.ibaraki.jp/park/kairakuen01.html |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) | http://www.koen.pref.ibaraki.jp/foreign_language/en/ http://japan-magazine.jnto.go.jp/en/1412_plumfestival.html https://www.japan.travel/en/spot/1469/ |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) | http://thai.ibarakiguide.jp/db-kanko/kairakuen-garden.html |
สวนบ๊วยอาตามิ (Atami Plum Garden), ชิซุโอกะ (Shizuoka)
© Shizuoka Tourism Association
© Shizuoka Tourism Association
อาตามิ (Atami) อนเซ็นรีสอร์ทเลียบฝั่งทะเลที่เดินทางไปได้แสนสะดวกจากโตเกียว (Tokyo) แห่งนี้ คือที่ตั้งของ สวนบ๊วยอาตามิ (Atami Plum Garden) สวนสาธารณะอันโดดเด่นด้วยความงามของดอกบ๊วยที่ผลิบานเต็มที่ในช่วงกลางฤดูหนาว มีต้นบ๊วย 59 สายพันธุ์รวมจำนวน 472 ต้น บางต้นมีอายุเก่าแก่ยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้จะทยอยกันผลิดอกบานตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมีนาคม ในช่วงเทศกาลชมดอกบ๊วย (Plum Blossom Festival) จะมีบ่อสำหรับแช่เท้าซึ่งใช้น้ำที่ไหลจากตาน้ำพุร้อนโดยตรงและร้านขายของที่ระลึกเปิดให้บริการ อีกทั้งยังมีกิจกรรมน่าสนใจต่างๆ มากมายรวมถึงการแสดงนาฏศิลป์โบราณและกิจกรรมดื่มชา นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนอันกว้างใหญ่ก็มีน้ำตกอุเมะมิโนะทะกิ (Umemi no Taki Falls)” ซึ่งสามารถชมความงามของดอกบ๊วยได้จากด้านหลังของน้ำตก และมีสวนเกาหลี (Korean Garden) ให้ได้เดินเที่ยวชมกันอย่างจุใจ หลังจากชมดอกบ๊วยเสร็จเรียบร้อยแล้วอย่าลืมลงแช่อนเซ็นที่อาตามิให้สบายเพื่ออบอุ่นร่างกาย ตามด้วยอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดๆ ตบท้ายรายการ
ที่อยู่ |
Atami Plum Garden8-11, Baien-cho, Atami-shi, Shizuoka |
---|---|
แผนที่ | |
การเดินทาง | จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Tokaido Shinkansen ไปลงที่สถานี Atami ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟสาย JR Ito Line ไปลงที่สถานี Kinomiya ใช้เวลา 3 นาที แล้วเดินอีก 10 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง เวลาทำการช่วงเทศกาลชมดอกบ๊วย: 08:30 – 16:00 น. |
ระยะเวลาทำการ | ตลอดปี ระยะเวลาจัดงาน The 74thAtami Plum Garden Plum Festival: 6 มกราคม – 4 มีนาคม 2018 |
วันหยุด | ไม่มี |
ค่าใช้จ่าย | ช่วงเทศกาลชมดอกบ๊วย: 300 เยน สำหรับผู้ที่พักแรมภายในเมืองอาตามิ (Atami City): 100 เยน ช่วงเวลานอกเหนือจากนี้เปิดให้เข้าชมฟรี |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) | https://www.ataminews.gr.jp/spot/105/ |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) | http://travel.ataminews.gr.jp/en/what-to-see/37/ http://www.fuji-travel-guide.com/news-item/atami-plum-garden/ |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) | – |
ศาลเจ้าคิตะโนะเทนมังกู (Kitano Tenmangu Shrine), เกียวโต (Kyoto)
© JNTO
© photo53.com
สวนบ๊วย (Baien / Plum Garden) ภายในศาลเจ้าคิตะโนะเทนมังกู (Kitano Tenmangu Shrine) คือจุดชมดอกบ๊วยยอดนิยมแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยต้นบ๊วยหลากหลายจาก 50 สายพันธุ์ เช่น ดอกบ๊วยแดงหรือโคไบ (Kobai), ดอกบ๊วยขาวหรือฮะคุไบ (Hakubai), ฮิโตะเอะ (Hitoe) และ ยะเอะ (Yae) เป็นต้น รวมทั้งสิ้นราว 1,500 ต้นซึ่งผลิดอกบานสะพรั่งราวกับจะแข่งกันอวดความงาม และเป็นสถานที่ๆ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งหากมีโอกาสไปเยือนเกียวโต (Kyoto) ในฤดูหนาว เพราะจะได้เดินชมความงามพร้อมเพลิดเพลินกับขนมและน้ำชารสเลิศท่ามกลางดอกบ๊วยที่ผลิดอกหลากสีสันสวยงาม ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์จะมีการจัดงานโนะดาเตะไดซะโนะเอะ (Nodate Daisa-no-e) ซึ่งจะมีไมโกะ (Maiko) หรือเกอิชาฝึกหัดมาสาธิตพิธีชงชา และในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ก็จะมีการจัดงานเทศกาลเซ็ทสึบุน (Setsubun Festival) งานประเพณีดั้งเดิมที่จะมีพิธีโปรยถั่วหรือที่เรียกว่ามะเมะมะกิ (Mamemaki) เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย นับว่าศาลเจ้าคิตะโนะเทนมังกูแห่งนี้เป็นสถานที่ๆ จะสามารถสูดกลิ่นอายแรกเริ่มของฤดูใบไม้ผลิ พร้อมชื่นชมความงามของดอกบ๊วยและสัมผัสกับวัฒนธรรมการดื่มชาของญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้งมากทีเดียว