แนะนำสถานที่โรแมนติกในฮอกไกโด (Hokkaido)

เทศกาลประดับไฟฤดูหนาวซัปโปโร ไวท์ อิลลูมิเนชัน (Sapporo White Illumination) นับเป็นเทศกาลที่สร้างสีสันให้กับฤดูหนาวของซัปโปโร (Sapporo) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด (Hokkaido) และเป็นเทศกาลประดับไฟที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1981 โดยในครั้งแรกนั้นใช้หลอดไฟจำนวนประมาณ 1,000 หลอด และ 37 ปีต่อมาก็เพิ่มจำนวนหลอดไฟมากขึ้นถึงกว่า 780,000 ดวงเลยทีเดียว

ที่สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน มีการจัดแสดงชิ้นงานมากมายหลากหลายแบบทั้งที่แสดงถึงธรรมชาติอันงดงามของฮอกไกโดและที่แสดงถึงเทศกาลคริสต์มาสอันรื่นเริง และในขณะเดียวกันก็มีการจัดงานเทศกาลตลาดคริสต์มาสเมืองมิวนิก (Munich Christmas Market) ไปพร้อมๆ กันด้วย

บริเวณถนนหน้าสถานีรถไฟซัปโปโร (Sapporo Station) และตามแนวต้นไม้บริเวณถนนมินะมิอิชิโจ (Minami Ichijo Street) ก็จะประดับประดาไปด้วยหลอดไฟจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว ซึ่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสจะขยายเวลาเปิดไฟจนถึงเที่ยงคืน จึงได้รับความนิยมเป็นสถานที่ออกเดทสุดโรแมนติกของบรรดาคู่รักทั้งหลายอย่างมาก

โอตารุ (Otaru) คือเมืองท่าเก่าแก่ที่เจริญรุ่งเรืองในยุค 100 ปีก่อน แค่ได้เดินเล่นเลียบไปตามริมฝั่งคลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่ไหลผ่านในตัวเมืองพลางชมบรรยากาศย้อนยุคก็เพลินมากแล้ว และงานเทศกาล เทศกาลโอตารุ สโนว์สตอรี่ (Otaru Snow Story) ก็เป็นงานที่แต่งแต้มสีสันให้กับทิวทัศน์หิมะของโอตารุแห่งนี้นั่นเอง ทุกปีในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดไป

สโนว์สตอรี่ (Otaru Snow Story) ภายในเมืองแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่หลัก

1. “Unga Kaijo” จะมีการจัดไฟไลท์อัพสีฟ้าสาดส่องบริเวณสถานีรถไฟโอตารุ (Otaru Station) และบริเวณรอบๆ คลองโอตารุ (Otaru Canal) มีการจัดโดยใช้หลอดไฟ LED สีฟ้าจำนวน 10,000 ดวงประดับเลียบฝั่งสร้างบรรยากาศสีฟ้าสุดโรแมนติกให้กับลำคลองในฤดูหนาว แถมริมทางยังมีรูปปั้นหิมะเล็กๆและแสงไฟจากเทียน

2. “Temiyasen Kaijo” คือระหว่างคลองไปตามรางรถไฟเก่าเทมิยาเซ็น ข้างทางมีซุ้มอาหาร โคมไฟ และรูปปั้นหิมะ คล้ายกันกับพื้นที่ Unga Kaijo เพียงจะต่างกันอยู่ตรงที่จะมีร้านอาหารข้างทางมากกว่า นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะตกแต่งร้านค้าและที่อยู่อาศัยของพวกเขาด้วยโคมไฟและตุ๊กตาหิมะบริเวณด้านหน้าเพื่อให้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาล

นอกจากนี้ก็มีการจัดงานโยะอิจิ สโนว์สตอรี่ (Yoichi Snow Story) ขึ้นในเมืองโยะอิจิ (Yoichi Town) ที่อยู่ติดกันด้วย ไฟประดับอิลลูมิเนชัน (Illumination) ที่แต่งแต้มสีสันให้กับถนนบริเวณหน้าสถานีรถไฟจะส่องประกายสีเหลืองอำพันสมกับเป็นเมืองแห่งวิสกี้ นับเป็นงานเทศกาลที่น่าไปเที่ยวชมแล้วผ่อนคลายอารมณ์ไปกับสีสันอันอบอุ่นสวยงามอย่างมาก

ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เป็นทะเลสาบที่อยู่ตรงกลางระหว่างซัปโปโร (Sapporo) และฮาโกดาเตะ (Hakodate) และมีเกาะ 4 เกาะตั้งอยู่ภายในใจกลางทะเลสาบอันกว้างใหญ่ สามารถล่องเรือในทะเลสาบแห่งนี้เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบ และที่ทะเลสาบแห่งนี้ดอกไม้ไฟจะถูกจุดทุกค่ำคืนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 6 เดือน ถือเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้หากพักค้างคืนที่โรงแรมแบบอนเซ็นริมทะเลสาบก็จะได้เต็มอิ่มกับการชมวิวสวยๆ ของทะเลสาบในขณะที่แช่อนเซ็นอีกด้วย

ในช่วงฤดูหนาวนั้นเมืองโทยะ (Toya) นั้นก็มีการประดับประดาด้วยหลอดไฟจำนวนกว่า 12,000 ดวงตามถนนจากเมืองอนเซ็นไปยังริมฝั่งทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เรียกว่า ถนนประดับไฟ (Illumination Street) อยู่ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ที่ลานนิงิวะอิฮิโรบะ (Nigiwai Hiroba) ใจกลางเมืองอนเซ็นก็จะได้เห็น อุโมงค์ประดับไฟ (Illumination Tunnel) อีกด้วย อุโมงค์ที่สว่างไสวระยิบระยับไปตลอดระยะทางราว 70 เมตรด้วยหลอดไฟ LED จำนวนกว่า 400,000 ดวงนี้นอกจากจะได้รับความนิยมในหมู่คู่รักแล้ว ก็ยังเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้มาเที่ยวเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็กมาด้วยเช่นกัน

ฮอกไกโดตอนเหนือ (North Hokkaido) นั้นหมายถึงพื้นที่ตั้งแต่ฮอกไกโดตอนกลางขึ้นไปจนเหนือสุดของเกาะ ซึ่งรวมถึงพื้นที่แถบอะซะฮิคะวะ (Asahikawa) ฟุระโนะ (Furano) และบิเอ (Biei) ไว้ด้วย เมื่อย่างเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ฮอกไกโดจะเริ่มมีหิมะตกและเป็นสัญลักษณ์แห่งการมาเยือนของฤดูหนาวอันยาวนาน

ฟุระโนะนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะเมืองที่สวยงามและเต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ สามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสกีได้ในฤดูหนาว สำหรับที่ สระสีฟ้า (Blue Pond) ในชิโระงะเนะ (Shirogane) เมืองบิเอ (Biei Town) และที่น้ำตกชิระฮิเงะ (Shirahige Falls) บริเวณแม่น้ำบิเอ (Biei River) นั้น ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนไปจะเริ่มเปิดไฟไลท์อัพซึ่งเป็นเทศกาลเฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้ล้วนเป็นสถานที่เลื่องชื่อในเรื่องของความงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวนั้นทิวทัศน์หิมะสีขาวบริสุทธิ์ที่ตัดกันกับสีฟ้าของทะเลสาบและแม่น้ำนั้นช่างเป็นภาพงดงามสะกดสายตาอย่างมาก

ฮอกไกโดตะวันออก (East Hokkaido) หมายถึงพื้นที่ครึ่งหนึ่งของฮอกไกโดทางฝั่งตะวันออก ซึ่งรวมถึงพื้นที่แถบโทะคะจิ (Tokachi area) ไว้ด้วย พื้นที่แถบโทะคะจินี้เป็นดินแดนเกษตรกรรมอันกว้างใหญ่ มีการทำการเกษตร ฟาร์มปศุสัตว์ และการเพาะพันธุ์สัตว์กันอย่างกว้างขวาง จึงเต็มไปด้วยของอร่อยและขนมหวานมากมายหลายชนิด และที่โทะคะจิงะวะอนเซ็น (Tokachigawa Onsen) ซึ่งอยู่บริเวณชานเมืองโอะบิฮิโระ (Obihiro City)

เมื่อถึงช่วงเทศกาลเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี จะมีการจัดงาน “เทศกาลประจำฤดูใบไม้ร่วง ณ แม่น้ำโทะคจิงะวะ (Autumn Festa in Tokachigawa)” ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจมากมายที่จะสัมผัสได้ที่ฮอกไกโดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น เช่น งานชมท้องฟ้าและดวงดาว (Starry Night Sky Viewing Session) ที่สามารถชมท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยดวงดาวทอประกายระยิบระยับ และ เวิร์คช็อปทดลองประดิษฐ์โคมไฟฟักทอง (Making Jack-o’-lanterns with Pumpkins) ที่สามารถนำโคมไฟฟักทองที่ประดิษฐ์เสร็จแล้วกลับไปเป็นที่ระลึกได้ เป็นต้น และสำหรับโซนค่ำคืนแห่งไวน์และชีส (Wine & Cheese no Yube) ก็จะได้ลิ้มรสผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของโทะคะจิ นับเป็นงานเทศกาลที่น่าแวะไปเที่ยวชมพร้อมๆ กับเพลิดเพลินกับการแช่อนเซ็นอย่างมากเลยทีเดียว

ฮอกไกโดตอนใต้ (South Hokkaido) หมายถึงพื้นที่แถบใต้สุดของฮอกไกโด มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือฮาโกะดาเตะ (Hakodate) ซึ่งในตัวเมืองเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมาย เช่น ภูเขาฮาโกะดาเตะ (Mt. Hakodate) และป้อมโกะเรียวคะคุ (Fort Goryokaku) เป็นต้น อีกทั้งในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่มีการค้ากับต่างประเทศที่เจริญรุ่งเรือง ฮาโกะดาเตะจึงเรียงรายไปด้วยโบสถ์และอาคารแบบตะวันตกที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและรูปแบบสถาปัตยกรรมของทางยุโรปมากมาย รับรองว่าหากได้มาเยือนจะต้องประทับใจกับบรรยากาศแบบตะวันตกที่อบอวลอยู่รอบตัวอย่างแน่นอน

ในฤดูหนาวที่นี่งานเทศกาลที่แต่งแต้มสีสันให้กับเมืองฮาโกะดาเตะก็คือ เทศกาลประจำฤดูหนาวแห่งฮาโกะดาเตะ (Hakodate Winter Festival) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนธันวาคมจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ภาพการประดับไฟอิลลูมิเนชัน (Illumination) จำนวนกว่า 160,000 ดวงทั่วเขตโมะโตะมะจิ (Motomachi) ที่เรียงรายไปด้วยโบสถ์และสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมายนั้นช่างดูสวยงามตระการตา และสร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกให้เราได้ดื่มด่ำกับความงามของฮาโกะดาเตะในฤดูหนาวที่ห่อหุ้มไว้ด้วยแสงไฟพร่างพรายราวกับอยู่ในความฝันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายในฤดูหนาว