สัมผัสประสบการณ์ที่พักในวัดญี่ปุ่น

วัดโชกะคุจิ (Shogaku-ji Temple) ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาในเมืองฮันโน (Hanno City) ซึ่งสามารถเดินทางจากใจกลางโตเกียว (Tokyo) ไปถึงได้โดยใช้เวลา 40 นาที เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1483 วัดนี้มีโปรแกรมพักแรมพร้อมสอนนั่งสมาธิแบบเซนให้ได้ลองสัมผัสประสบการณ์การปฏิบัติธรรมแบบเดียวกันกับพระสงฆ์ฝึกหัด ในระยะเวลา 2 วัน 1 คืน โดยจะทำการฝึกนั่งสมาธิ 1 ครั้งในวันแรก และอีก 1 ครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการนั่งขัดสมาธิอาจมีอาการเหน็บชาที่ขาบ้าง แต่การนั่งสมาธิไปเงียบๆ จะช่วยให้จิตใจค่อยๆ สงบและผ่อนคลายลงได้ ในตอนเช้าจะต้องตื่นเวลา 05:30 น. ซึ่งนอกจากการฝึกสมาธิแล้วก็ยังมีช่วงเวลาสำหรับการทำความสะอาดวัดด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่มีเฉพาะในวัดเท่านั้นให้ได้สัมผัสอีกหลายอย่าง เช่น การฟังเทศน์ รับประทานอาหารเจแบบญี่ปุ่น คัดลอกพระสูตร เป็นต้น สำหรับวัดโชกะคุจินั้นเป็นวัดบนเขา ในฤดูหนาวอากาศจึงหนาวเย็นมาก จึงไม่ควรลืมพกอุปกรณ์กันหนาวต่างๆ รวมถึงถุงเท้าหนาๆ ติดไปด้วย

หากได้ทดลองฝึกนั่งสมาธิแบบเซนโดยมีผู้สอนเป็นภาษาอังกฤษ ก็น่าจะช่วยให้สามารถเข้าถึงโลกแห่งเซน (การรวบรวมจิตเป็นหนึ่งเดียวเพื่อทำความเข้าใจความจริงที่เที่ยงแท้) ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งสถานที่ที่จะช่วยให้ความปรารถนาดังกล่าวเป็นจริงได้ก็คือที่วัดเมียวชินจิชุงโคอิน (Myoshinji Shunkoin Temple) วัดยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่งนี้นั่นเอง เพราะที่นี่มีรองเจ้าอาวาสที่เคยไปเรียนที่อเมริกาและสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วคอยช่วยสอนการนั่งสมาธิแบบเซนให้ นอกจากนี้ยังมีคอร์สเรียนพิธีชงชาและเรียนเขียนพู่กันอีกด้วย ซึ่งผู้เข้าพักสามารถเลือกเข้าเรียนคลาสที่ตนสนใจได้ในระหว่างพักแรมที่นี่โดยไม่ต้องมีการกำหนดโปรแกรมตายตัวล่วงหน้าแต่อย่างใด อีกทั้งบริเวณใกล้ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของวัดดังๆ อีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นวัดนินนะจิ (Ninnaji Temple) และวัดริวอันจิ (Ryuanji Temple) ซึ่งนับว่าสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวที่เน้นการพักแรมในวัดเป็นอย่างมาก วัดชุงโคอินนั้นมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์อย่างมาก มีเครื่องเรือนรวมถึงของมีค่าที่มีที่มาจากศาสนาคริสต์เก็บไว้ในวัด นอกจากนี้ยังรับจัดพิธีแต่งงานแบบพุทธโดยใช้ภาษาอังกฤษอีกด้วย ผู้สนใจสามารถทดลองสอบถามกับทางวัดได้โดยตรง

วัดเกียวคุโซอิน (Gyokuso-in Temple) กลางเขาชิงิซัง (Shigisan) เป็นสถานที่สัมผัสประสบการณ์พักแรมในวัดหรือชุคุโบ (Shukubo) ได้ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย นอกจากการคัดลอกพระสูตรและการวาดรูปพระพุทธเจ้าแล้ว วันรุ่งขึ้นยังต้องร่วมพิธีโกะมะคิโต (Gomakito) หรือพิธีอธิษฐานจิตโดยการใช้ไฟตั้งแต่เช้าตรู่ อีกทั้งยังจะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่น่าตื่นตาตื่นใจของพิธีฮนโดไดฮันเนียะคิโต (Hondo Daihannya Kito) ซึ่งเป็นพิธีสวดมนต์ 600 บทร่วมกันของพระสงฆ์จำนวนมากอีกด้วย ชุคุโบ (Shukubo) หรือสถานที่พำนักของวัดเกียวคุโซอิน (Gyokuso-in Temple) นั้นมีความทันสมัยมาก มีทั้งสัญญาณไวไฟและเครื่องปรับอากาศครบครัน แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาจจะมีความกังวลว่าจะต้องเจอกับการฝึกปฏิบัติธรรมอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ในตอนกลางคืนยังมีแสงสว่างจากตะเกียงหินมากมายนับไม่ถ้วนให้ได้เพลิดเพลินกับความงามที่ดูราวกับจินตนาการ อีกทั้งยังมีรูปแกะสลักเสือวางอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในบริเวณวัดให้ได้ลองค้นหากันอีกด้วย

พื้นที่ทั้งหมดบนภูเขาโคยะซัง (Koyasan) ในจังหวัดวากายะมะ (Wakayama) เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนาในญี่ปุ่น มีประวัติความเป็นมายาวนานราว 1,200 ปี บริเวณเมืองที่ประกอบด้วยวัดมากมายนั้นมีชุคุโบ (Shukubo) หรือสถานที่พักแรมสำหรับพระสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรมอยู่หลายแห่งแต่ที่นี่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษ นอกจากจะได้ร่วมทำวัตรเช้า (การสวดมนตร์และการสักการะนมัสการต่อหน้าพระพุทธรูปหรือหน้าวัด) ร่วมพิธีโกะมะคิโต (Gomakito) ซึ่งเป็นการอธิษฐานจิตโดยการใช้ไฟแล้ว ยังสามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรมเสริมอย่างการทำอะจิคัง (Ajikan) ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกสมาธิ หรือการคัดลอกพระสูตรอีกด้วย ด้านในวัดมีรูปปั้นโคโบไดชิ (Kobo Daishi) พระสงฆ์ผู้ก่อตั้งนิกายชินงอนภายใต้ศาสนาพุทธฝ่ายวัชรยานผู้โด่งดัง ซึ่งมีผู้นิยมเดินทางมาไนท์ทัวร์เพื่อสักการะนมัสการในตอนกลางคืนเป็นจำนวนมาก นับเป็นโปรแกรมที่อยากแนะนำให้ลองสัมผัสดูเพราะจะได้เดินเล่นบนภูเขาโคยะซังในยามค่ำคืนซึ่งมีบรรยากาศที่แตกต่างไปจากตอนกลางวัน นอกจากนี้ยังไม่ควรพลาดโอกาสลองชิมอาหารมังสวิรัติหรือโชจินเรียวริ (Shojin Ryori) ที่ทำจากเต้าหูงาซึ่งเป็นของดังของภูเขาโคยะอีกด้วย