ซูชิเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่ในญี่ปุ่นนั้น ซูชิไม่ได้มีแค่เพียงการนำเอาข้าวสวยที่คลุกกับน้ำส้มสายชูมาปั้นเป็นก้อนและวางปลาดิบไว้ด้านบน อย่างที่เรียกกันว่า “นิงิริซูชิ (Nigirizushi) ” เท่านั้น แต่ยังมีซูชิอีกมากมายหลายรูปแบบ อาทิเช่น “โอชิซูชิ (Oshizushi) ” และ “ชิราชิซูชิ (Chirashizushi) ” เป็นต้น ในครั้งนี้เราจึงจะขอแนะนำซูชิชนิดต่างๆ ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นและแต่ละวัฒนธรรมให้ได้รู้จักกัน
นิงิริซูชิ (Nigirizushi)
ซูชิชนิดปั้น หรือนิงิริซูชิ (Nigirizushi) นั้น เกิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) ในสมัยเอโดะ (ราว 400 ปีก่อน) จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เอโดะมาเอะซูชิ (Edomae sushi)” นิงิริซูชิที่ญี่ปุ่นนั้นมักป้ายวาซาบิไว้ระหว่างข้าวซูชิ (ข้าวคลุกน้ำส้มสายชู) กับเนื้อปลา สำหรับใครที่ทานวาซาบิไม่ได้จึงต้องระวังตรงจุดนี้ และนิงิริซูชินั้นมีหลากหลายระดับชั้น ตั้งแต่ร้านหรูๆ ที่เสิร์ฟเป็นคอร์ส ราคาคอร์สละตั้งแต่ 10,000 – 30,000 เยน ไปจนถึงร้านซูชิจานหมุนหรือที่เรียกว่า “ไคเต็นซูชิ (Kaiten sushi)” ที่ให้เราได้อิ่มอร่อยกับซูชิราคาจานละ 100 เยนเลยทีเดียว
ชิราชิซูชิ (Chirashizushi)
ชิราชิซูชิ (Chirashizushi) เป็นซูชิชนิดที่นำปลา ผักต้มรสออกหวาน และไข่หั่นเป็นเส้นๆ ที่เรียกว่าคินชิทามาโกะ (Kinshi tamago) มาวางโรยลงบนข้าวซูชิ (ข้าวคลุกน้ำส้มสายชู) หน้าตาดูสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ นิยมรับประทานกันในโอกาสเฉลิมฉลองต่างๆ เช่นในช่วงเทศกาลตุ๊กตาฮินะ (Hina Matsuri) เป็นต้น ในกรณีรับประทานร่วมกันหลายๆ คน จะนิยมจัดวางมาในถาดกลมขนาดใหญ่ที่เรียกว่าโอเกะ (Oke) และตักแบ่งกันรับประทาน
เทมากิซูชิ (Temaki sushi)
เทมากิซูชิ (Temaki suhi) ซึ่งมีความหมายว่าซูชิม้วนมือ (Hand roll sushi) คือการนำเอาแผ่นสาหร่าย ข้าวคลุกน้ำส้มสายชู และเครื่องชนิดอื่นๆ เช่น เนื้อปลา หรือผักสด เป็นต้น มาม้วนเข้าด้วยกันแล้วจึงรับประทาน และเนื่องจากสามารถเลือกเฉพาะเครื่องซูชิที่ตนชอบมาม้วนได้เอง ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมทำซูชิชนิดนี้รับประทานกันเมื่อมีการจัดงานปาร์ตี้ที่บ้าน ขอแนะนำให้ลองม้วนและกัดเข้าปากคำโตๆ ดู รับรองว่าจะต้องติดใจกันอย่างแน่นอน
โอชิซูชิ (Oshizushi)
ซูชิชนิดกด หรือที่เรียกว่า “โอชิซูชิ (Oshizushi) ” คือซูชิที่นำเอาข้าวคลุกน้ำส้มสายชูและเนื้อปลามาใส่ลงในกล่องไม้ จากนั้นจึงใช้น้ำหนักกดทับลงให้แน่นจากด้านบน เนื้อปลาที่นิยมนำมาทำซูชิชนิดนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น ซูชิชนิดกดของโอซาก้าที่เรียกว่า “บัตเตระ (Battera) ” จะใช้ปลาซาบะ (Mackerel) ส่วน “มาซุซูชิ (Masuzushi) ” ของโทยามะจะใช้ปลามาซุ (Trout) เป็นต้น และนอกจากนี้ก็ยังมี “อาจิโนะโอชิซูชิ (Aji no oshizushi) ” ที่ทำจากปลาอาจิ (Horse mackerel) อีกด้วย โดยมากแล้วซูชิชนิดกดนี้นิยมนำมาทำเป็นอาหารกล่องขายตามสถานีรถไฟ หรือที่เรียกกันว่า “เอกิเบ็น (Ekiben) ” แนะนำให้ลองหาซื้อมาทานบนรถไฟกันดู
อินาริซูชิ (Inarizushi)
อินาริซูชิ (Inarizushi) คือซูชิชนิดที่นำเอาข้าวคลุกน้ำส้มสายชูมาใส่ลงในเต้าหู้ทอดอาบุระอาเกะ (Abura-age) โดยเต้าหู้ทอดที่ใช้จะนำมาต้มให้ออกรสหวานเสียก่อน ส่วนที่ได้ชื่ออินารินั้น เพราะเป็นอาหารโปรดของสุนัขจิ้งจอกที่ทำหน้าที่รับใช้เทพเจ้าอยู่ในศาลเจ้าอินาริ (Inari Shrine) นั่นเอง ซูชิชนิดนี้มีรสหวานชุ่มฉ่ำ จึงเป็นที่นิยมของผู้คนทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุเลยทีเดียว
คาคิโนะฮะซูชิ (Kakinohazushi)
คาคิโนะฮะซูชิ (Kakinohazushi) หมายถึงซูชิห่อใบพลับ ทำโดยนำเอาใบของต้นพลับมาห่อเข้ากับเนื้อปลาหมักเกลือและข้าวซูชิเป็นทรงสี่เหลี่ยม ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากใบพลับ ซูชิชนิดนี้ถือกำเนิดจากความต้องการถนอมอาหารในดินแดนที่ไม่สามารถจับปลาได้เพราะไม่มีชายฝั่งทะเล ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นอาหารประจำท้องถิ่นของจังหวัดนารา (Nara) จังหวัดวากายะมะ (Wakayama) และจังหวัดอิชิคะวะ (ishikawa) ซึ่งความสนุกอย่างหนึ่งในการรับประทานซูชิชนิดนี้ก็คือการได้ลุ้นว่าเมื่อเปิดใบพลับที่ห่อไว้ออกมาจะได้พบกับปลาชนิดไหนนั่นเอง
[ เพจที่เกี่ยวข้อง ]
- 9 แหล่งอร่อย อาหารรสเลิศเอาใจนักชิม
- แนะนำแหล่งตระเวนกินของอร่อยในโตเกียว!
- อาหารท้องถิ่นของภูมิภาคต่างๆ
- ข้าวกล่องบนรถไฟที่แสนอร่อย
ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2017